Monday, February 1, 2016

แนะนำโปรแกรมดีสเปซ (Dspace Guide)

       จากที่เคยเกริ่นไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้ทราบว่ามีหลายโปรแกรมที่สามารถนำมาจัดทำคลังข้อมูลสถาบันได้  แต่ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างโปรแกรม Dspace เป็นลำดับแรก (สำหรับโปรแกรมอื่น ๆ หากมีโอกาส ผู้เขียนจะนำมาเล่าสู่กันฟังในหัวข้อลำดับถัดไปครับ)
โปรแกรม Dspace เป็นโปรแกรมประเภท Open Source (นำไปใช้งานได้ฟรีในระดับหนึ่ง หรือตามเงื่อนไข และข้อตกลงของผู้พัฒนาโปรแกรม  มีรูปแบบมาตรฐานในการจัดเก็บข้อมูล Metadata แบบ Dublin Core โดยกำหนดดัชนีต่าง ๆ ของข้อมูลเพื่อใช้ในการค้นหาเอกสารที่ถูกแปลงในรูปแบบของดิจิทัล)  ใช้สำหรับจัดทำคลังข้อมูลหรือคลังสารสนเทศเพื่อเก็บ ผลงานทางวิชาการของบุคลากร คณาจารย์ นิสิต นักศึกษา วิทยานิพนธ์  บทความวิชาการ   บทความวิจัย   รายงานการวิจัย เอกสารการประชุม เอกสารการสัมมนา  เอกสารการสอน  หนังสือ  คู่มือปฏิบัติงาน   สื่อมัลติมีเดีย (ไฟล์วีดีโอ / ไฟล์เสียง / ไฟล์ภาพ) เป็นต้น  ที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีรูปแบบการทำงานที่หลากหลาย ที่ช่วยจัดการเอกสารต่าง ๆ ได้แก่  การบันทึกและนำข้อมูลเข้าระบบผ่านแบบฟอร์มอัตโนมัติ การกำหนดผู้ดูแลระบบ ผู้นำเข้าข้อมูล ผู้ตรวจสอบ แก้ไขข้อมูล ให้กับ Metadata ของทรัพยากรอิเล็กทรอนิกส์ การควบคุมการเข้าถึง ใช้งานทรัพยากรออนไลน์ การสืบค้นทรัพยากรสารสนเทศผ่านทางออนไลน์
กล่าวโดยสรุป โปรแกรม Dspace มีข้อดีหลายอย่าง เบื้องต้นดังนี้
          -   เป็นแหล่งรวบรวมทรัพยากรอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ผลงานทางวิชาการของบุคลากร คณาจารย์ นิสิต นักศึกษา วิทยานิพนธ์  บทความวิชาการ   บทความวิจัย   รายงานการวิจัย เอกสารการประชุม เอกสารการสัมมนา  เอกสารการสอน  หนังสือ  คู่มือปฏิบัติงาน   สื่อมัลติมีเดีย (ไฟล์วีดีโอ / ไฟล์เสียง / ไฟล์ภาพ เป็นต้น ซึ่งรวมอยู่ในแหล่งเดียวกัน ทำให้สะดวกต่อผู้ใช้บริการในค้นหา
          -   สามารถทำงานร่วมกับคลังข้อมูลประเภทอื่น ๆ ได้ (ศึกษาเพิ่มเติมในหัวข้อ OAI-PMH )
          -   สามารถเผยแพร่ผ่านทางระบบออนไลน์ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้งานได้ตลอดเวลา จากทุกสถานที่
          -   มีตัวช่วยสืบค้นข้อมูลทำให้สะดวกและง่ายต่อการค้นหา
          -   มีเลขเฉพาะในการกำกับข้อมูลของทรัพยากรแต่ละรายการ ทำให้สะดวกต่อการเข้าถึงทรัพยากรที่ต้องการ
          -   มีตัวช่วยจัดการที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดและแบ่งสิทธิในการดูแล จัดการข้อมูล (Metadata)
          -   มีความร่วมมือกับกูเกิล (Google) ซึ่งผู้ใช้กูเกิลสามารถสืบค้นมายังคลังข้อมูลของ Dspace ได้
          -   มีระบบการรักษาความปลอดภัย สามารถกำหนดชื่อ รหัสผ่าน และสิทธิ์ให้กับผู้ใช้งานในการเข้าใช้ระบบ

ข้อจำกัดในการใช้งาน ได้แก่
           -   เนื่องจากเป็นโปรแกรมประเภท open source ผู้ใช้งานจำเป็นต้องมีความรู้เฉพาะในหลายด้าน ได้แก่  ระบบปฏิบัติการที่เลือกใช้งาน การติดตั้งโปรแกรมต่าง ๆ ที่ทำงานร่วมกับ โปรแกรม Dspace และการปรับแต่งค่าการใช้งานของโปรแกรมทั้งก่อนและหลังการติดตั้ง  ซึ่งมีความยากในการแก้ไข

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม Dspace (Researching about Dspace Software)
กุสลวัฒน์ คงประดิษฐ์. (๒๕๕๗). สถานภาพและปัญหาแพลตฟอร์ม DSpace ที่คลังหน่วยเก็บถาวร                  สถาบันในประเทศไทยใช้. ชลบุรี: ภาควิชาสารสนเทศศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
         มหาวิทยาลัยบูรพา.
http://digital_collect.lib.buu.ac.th/dcms/files/2559_070.pdf

ผู้เขียนได้มีโอกาสอ่านงานวิจัยชิ้นนี้ของท่านผู้ช่วยศาสตราจารย์กุสลวัฒน์ คงประดิษฐ์
เห็นว่ามีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งในการเริ่มต้น สำหรับผู้ที่ยังไม่มีความรู้ หรือไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร
หากต้องการจัดทำคลังของสถาบัน ซึ่งโปรแกรม Dspace คงเป็นตัวอย่างหนึ่งของกรณีศึกษา
ในงานวิจัยชิ้นนี้
       ท่านได้กล่าวถึงมุมมองในหลายๆ ด้าน ของการนำโปรแกรม Dspace มาใช้ในการจัดทำคลังหน่วยเก็บถาวรสถาบัน (Institutional Repository)
ทั้งนี้ท่านได้นำเสนอแนวทางปฏิบัติรวมถึงตัวอย่างการใช้งานไว้อย่างชัดเจน และมีความครบถ้วน

References:
http://www.stks.or.th/th/knowledge-bank/28/227.html
http://kmlibrary.bu.ac.th/index.php?view=article&id=161

Key: Dspace Guide, Dspace Installation, ติดตั้ง dspace, install dspace, Institutional Repository, ir, คลังข้อมูล, คลังสารสนเทศ, คลังสถาบัน, คลังเอกสาร

No comments:

Post a Comment