[Click here to see this post in English]
[ คำแนะนำก่อนการติดตั้ง]
- ผู้ติดตั้งจำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานในการใช้งานคำสั่งต่าง ๆ บนระบบปฏิบัติการ Windows 7 แบบ 64 bit
- ระมัดระวังในการพิมพ์คำสั่ง ตัวสะกด เว้นวรรค ตัวอักษรพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ต่าง ๆ ซึ่งมีผลต่อความถูกต้องสำหรับการทดสอบใช้งาน
1. ให้จัดเตรียมไฟล์โปรแกรมที่จำเป็นในการติดตั้งดังต่อไปนี้ (หรือดาวน์โหลดได้จากลิงค์ด้านล่างนี้) ไว้ในเครื่องที่จะติดตั้ง โดยอาจวางไว้บน desktop เพื่อให้เห็นได้ง่าย :
2. เริ่มดำเนินการติดตั้งในขั้นตอนแรก โดยให้แตกไฟล์ที่มีนามสกุล .zip ทุกไฟล์ ไว้ที่ไดรฟ์ c:\
โดยมีชื่อโฟลเดอร์ดังตัวอย่างด้านล่าง
c:\apache-ant-1.8.0
โดยมีชื่อโฟลเดอร์ดังตัวอย่างด้านล่าง
c:\apache-ant-1.8.0
c:\apache-maven-3.1.0
c:\apache-tomcat-7.0.69
c:\dspace-6.0-src-release
ของ administrator เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการติดตั้ง
โดยคลิกที่ 'Run as administrator'
คลิกปุ่ม Next to เพื่อดำเนินการในขั้นตอนถัดไป
เมื่อปรากฎปุ่ม Close ให้คลิกเพื่อเสร็จสิ้นการติดตั้งโปรแกรม java
4. ถัดไปให้ติดตั้งโปรแกรมจัดการฐานข้อมูล โดยดับเบิ้ลคลิกที่ชื่อไฟล์ 'postgresql-9.5.2-1-windows.exe'
คลิกปุ่ม Next to เพื่อดำเนินการในขั้นตอนถัดไป
โปรแกรมจะแสดงตำแหน่งโฟลเดอร์ที่จะทำการติดตั้ง ถ้าไม่ต้องการเปลี่ยนให้คลิกปุ่ม Next
เพื่อไปยังขั้นตอนถัดไป
ถัดมาโปรแกรมจะแสดงตำแหน่งโฟลเดอร์ที่จะจัดเก็บข้อมูลฐานข้อมูล (data)
ถ้าไม่ต้องการเปลี่ยนแปลง ให้คลิกปุ่ม Next เพื่อไปยังขั้นตอนถัดไป
ถัดมาให้กำหนดรหัสผ่านให้กับ user ชื่อ postgres ซึ่งเป็น user ที่มีสิทธิ์แบบ superuser,
เมื่อตั้งรหัสผ่านแล้วให้จดไว้เพื่อกันลืม หรือจำให้ได้ แล้วคลิกปุ่ม Next เพื่อไปยังขั้นตอนถัดไป
ถัดมาโปรแกรมจะถามถึง port เพื่อใช้สำหรับการเชื่อมต่อการทำงาน ค่าปกติของ port คือ 5432
หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงให้คลิกปุ่ม Next เพื่อไปยังขั้นตอนถัดไป
ถัดมาให้เลือกรูปแบบของภาษาที่ต้องการใช้งาน โดยอาจเลือกให้สอดคล้องกับสถานที่อยู่ของเรา
ถ้าเป็นของไทยให้เลือก Thai, Thailand แล้วให้คลิกปุ่ม Next เพื่อไปยังขั้นตอนถัดไป
ถัดมาให้คลิกปุ่ม Next เพื่อเริ่มการติดตั้งโปรแกรม PostgreSQL
ใช้เวลาสัก 2-3 นาที เพื่อติดตั้งโปรแกรม
เมื่อถึงหน้าต่างสุดท้ายของการติดตั้งโปรแกรม ให้คลิกยกเลิกเครื่องหมายถูกหน้ากล่อง 'Stack Builder...'
และคลิกปุ่ม Finish เพื่อเสร็จสิ้นการติดตั้งโปรแกรม PostgreSQL
5. ขั้นตอนถัดไปให้ตั้งค่าสภาพแวดล้อมการใช้งานของโปรแกรมต่าง ๆ ที่แตกไว้ในไดร์ฟ c:\ ในข้างต้น หรือที่ติดตั้งไว้เพื่อให้สามารถเรียกใช้คำสั่งการทำงานของโปรแกรมที่ต้องการได้อย่างถูกต้อง โดยคลิกเมาส์ขวาที่ Computer และคลิก Properties
และคลิกที่ Advanced system settings
ที่หน้าต่างแถบ Advanced ให้คลิกที่ปุ่ม Environment Variables..
ที่กรอบหน้าต่าง System variables ให้คลิกที่ Path และคลิกปุ่ม Edit เพื่อแก้ไขการตั้งค่า
ให้ใส่เครื่องหมาย ; (semicolon) เพื่อแยกตำแหน่งไดเรกทอรีหรือโฟลเดอร์ของแต่ละโปรแกรม โดยตั้งค่าตำแหน่งของโปรแกรม apache-ant ที่จะเรียกใช้งานตามภาพดังนี้
;c:\apache-ant-1.8.0\bin
ถัดมาตั้งค่าเรียกการใช้งานคำสั่งของโปรแกรม apache-maven ดังนี้
;c:\apache-maven-3.1.0\bin
ถัดมาตั้งค่าเรียกการใช้งานคำสั่งของโปรแกรม java ดังนี้
;c:\Program Files\Java\jdk1.7.0_79\bin
ถัดมาตั้งค่าเรียกการใช้งานคำสั่งของโปรแกรม apache-tomcat ดังนี้
;c:\apache-tomcat-7.0.69\bin
ถัดมาตั้งค่าเรียกการใช้งานคำสั่งของโปรแกรม PostgreSQL ดังนี้
;c:\Program Files (x86)\PostgreSQL\9.5\bin
เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้วให้คลิกปุ่ม OK เพื่อเสร็จสิ้นการตั้งค่าในส่วนของ System Variable
ที่กรอบหน้าต่าง 'User variables for Administrator' ให้คลิกปุ่ม New...
เพื่อตั้งค่าการใช้งานของโปรแกรมเพิ่มเติม
กำหนดค่าการใช้งานของ JAVA_HOME ดังนี้
ในช่อง Variable name: พิมพ์ 'JAVA_HOME'
และในช่อง Variable value: พิมพ์ 'c:\Program Files\Java\jdk1.7.0_79'
และคลิกปุ่ม OK เพื่อบันทึการตั้งค่า
กำหนดค่าการใช้งานของ ANT_HOME ดังนี้
ในช่อง Variable name: พิมพ์ 'ANT_HOME'
และในช่อง Variable value: พิมพ์ 'c:\apache-ant-1.8.0'
และคลิกปุ่ม OK เพื่อบันทึการตั้งค่า
กำหนดค่าการใช้งานของ CATALINA_HOME ดังนี้
ในช่อง Variable name: พิมพ์ 'CATALINA_HOME'
และในช่อง Variable value: พิมพ์ 'c:\apache-tomcat-7.0.69'
และคลิกปุ่ม OK เพื่อบันทึการตั้งค่า
เมื่อเสร็จสิ้นการตั้งค่าที่หน้าต่าง 'Environment Variables' ให้คลิกปุ่ม OK
คลิกปุ่ม OK อีกครั้งเพื่อทำการปิดหน้าต่าง System Properties
6. ทดสอบการเรียกใช้งานคำสั่งของโปรแกรมต่าง ๆ ข้างต้น โดยเปิดหน้าต่างโปรแกรม command ของ windows หรือ คลิกที่ปุ่ม Start -> ในช่อง Search program and files พิมพ์ 'cmd.exe'
ทดสอบพิมพ์คำสั่ง ' java -version' และกดปุ่ม Enter หากการตั้งค่าถูกต้องจะแสดงชื่อโปรแกรม java และเวอร์ชั่นของโปรแกรมดังภาพ
และทดสอบพิมพ์คำสั่ง 'ant -version' และกดปุ่ม Enter เพื่อดูผลลัพธ์เช่นเดียวกัน
7. ขั้นตอนถัดมาให้สร้างฐานข้อมูลและชื่อผู้ใช้ฐานข้อมูลของโปรแกรม dspace ก่อนการติดตั้งโปรแกรม dspace โดยตั้งค่าการใช้งานผ่านโปรแกรม pgAdmin III (คลิกที่ปุ่ม Start -> pgAdmin III)
จะปรากฎหน้าต่างโปรแกรม pgAdmin III ให้คลิกเมาส์ขวาที่ชื่อ PostgreSQL 9.5 (x86) (localhost:5432) และคลิกที่ Connect เพื่อเชื่อมต่อการใช้งานฐานข้อมูล
โปรแกรมจะถามรหัสผ่านที่กำหนดไว้ ให้ใส่รหัสผ่านของ user ที่ชื่อ postgres ที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้ และคลิกปุ่ม OK เพื่อยืนยัน
คลิกเมาส์ขวาที่ชื่อ Login Roles (1) และคลิกที่ชื่อ New Login Role... เพื่อสร้างชื่อ login ของ dspace
ที่บรรทัด Role name พิมพ์ชื่อ 'dspace'
ถัดมาคลิกที่แถบหน้าต่าง Definition และตั้งรหัสผ่านให้กับผู้ใช้ชื่อ dspace
(อย่าลืมบันทึกรหัสผ่านไว้เพื่อกันลืม !!)
คลิกที่แถบหน้าต่าง Role privileges เพื่อคลิกเลือกกำหนดสิทธิ์ต่าง ๆ ให้กับผู้ใช้ชื่อ dspace ดังภาพด้านล่าง
(Inherits rights from parent roles / Superuser / Can create databases / Can create roles)
และคลิกปุ่ม OK เพื่อบันทึกค่าการสร้างผู้ใช้ชื่อ dspace
ถัดมาให้สร้างฐานข้อมูลชื่อ dspace โดยคลิกเมาส์ขวาที่ Databases และคลิกเลือก New Database..
ที่แถบหน้าต่าง Properties ในช่อง Name พิมพ์ชื่อ 'dspace' และช่อง Owner พิมพ์ชื่อ 'dspace'
ถัดมาคลิกที่แถบหน้าต่าง Definition และคลิกเลือก Encoding เป็นแบบ UTF-8 และช่อง Tablespace คลิกเลือกแบบ pg_default และคลิกปุ่ม OK เพื่อบันทึกการตั้งค่า
ถัดมาให้ดับเบิ้ลคลิกที่ฐานข้อมูลชื่อ 'dspace ' เพื่อเชื่อมต่อการใช้งานและการเรียกดูข้อมูล
จะแสดงการเชื่อมต่อดังภาพด้านล่าง
ถัดมาให้เพิ่ม Extension ชื่อ pgcrypto โดยคลิกเมาส์ขวาที่ชื่อ Extensions (2) -> New Extension..
(โดยการติดตั้ง pgcrypto จะถูกบังคับให้ติดตั้งใน dspace ตั้งแต่เวอร์ชั่น 6 เป็นต้นไป
หากไม่ติดตั้งแล้ว จะพบปัญหาการติดตั้ง dspace ในภายหลังได้)
ที่แถบ Properties ในช่อง Name พิมพ์ 'pgcrypto'
ที่หน้าต่างแถบ Definition , ในช่อง Scheme คลิกเลือก public และในช่อง Version คลิกเลือก 1.2
และคลิกปุ่ม OK เพื่อบันทึกการตั้งค่า
โปรแกรมจะดำเนินการเพิ่ม extensions ชื่อ 'pgcrypto' ขึ้นมาให้ใหม่
ให้เปิดหน้าต่างโปรแกรม pgAdmin III ค้างไว้ก่อน ยังไม่ต้องปิด และไปทำในขั้นตอนถัดไป
8. สร้างโฟลเดอร์ในไดร์ฟ c:\ ขึ้นมาใหม่ โดยตั้งชื่อ 'dspace' เพื่อเตรียมไว้ก่อนเริ่มติดตั้งโปรแกรม dspace
9. เริ่มขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรม dspace โดยไปที่หน้าต่าง windows command prompt
และไปที่ไดเรกทอรี
c:\dspace-6.0-src-release\dspace
และพิมพ์คำสั่ง mvn package เพื่อติดตั้งและเริ่มการดาวน์โหลดโปรแกรมผ่านทางอินเทอร์เนต
ในขั้นตอนนี้จะใช้เวลานานที่สุด สำหรับการติดตั้งโปรแกรม dspace จากตัวอย่างที่แสดงให้เห็นผลการทดสอบการติดตั้งใช้เวลาประมาณ 28 นาที
เมื่อเสร็จสิ้นการดาวน์โหลดโดยใช้คำสั่ง 'mvn package'
หากการติดตั้งสำเร็จ โปรแกรมจะแสดงข้อความ 'BUILD SUCCESS'
และแสดงระยะเวลาการติดตั้งทั้งหมด แต่หากการติดตั้งไม่สำเร็จจะแสดงข้อความ 'BUILD FAILED'
ทำการเปลี่ยนไดเรกทอรีไปที่โฟลเดอร์
c:\dspace-6.0-src-release\dspace\target\dspace-installer
และพิมพ์คำสั่ง ant fresh_install เพื่อติดตั้งในขั้นตอนถัดไป
ใช้เวลารอประมาณสัก 3-6 นาที จะแสดงข้อความ 'BUILD SUCCESSFUL'
10. ลำดับถัดมาให้สร้างชื่อผู้ดูแลระบบโปรแกรม dspace โดยไปที่ไดเรกทอรี c:\dspace\bin
และพิมพ์คำสั่ง dspace create-administrator
11. ทำการกรอกข้อมูลตามโปรแกรมแจ้งบนหน้าจอ ประกอบด้วยข้อมูลดังนี้ :
E-mail address / First name / Last name / Password /
เมื่อกรอกข้อมูลครบแล้ว ให้พิมพ์ y เพื่อยืนยันและบันทึกการตั้งค่า
12. สั่ง start service ของ Web Server ที่หน้าต่าง windows command prompt
โดยพิมพ์คำสั่ง %CATALINA_HOME%\bin\startup.bat และกดปุ่ม enter
ในการใช้งานครั้งแรก โปรแกรม Windows Firewall ของเครื่องจะถามถึงความปลอดภัย
ให้คลิกที่ปุ่ม Allow access เพื่อยืนยันความปลอดภัย
รอสักครู่ให้ปรากฎข้อความ ' Server startup in ... ' หมายถึง web server เริ่มการทำงาน
ทดลองเรียกหน้าเว็บโปรแกรม dspace โดยเปิด browser และพิมพ์
http://localhost:8080/jspui
ถ้าพบข้อความผิดพลาดแจ้งว่า 'HTTP Status 404' แสดงว่ามีการกำหนดค่าการใช้งานไม่ถูกต้อง
ให้ดำเนินการในขั้นตอนถัดไป
(ตัวอย่างในลำดับถัด ๆ ไป จะแสดงให้เห็นถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการติดตั้งโปรแกรม dspace ในมุมมองต่าง ๆ และแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น)
ถัดมาให้ไปที่ไดเรกทอรีชื่อ c:\dspace\webaspps และ copy โฟลเดอร์ชื่อ 'jspui' ไปไว้ในไดเรกทอรีชื่อ
c:\apache-tomcat-7.0.69\webapps\ROOT
เมื่อ copy ข้อมูลเสร็จแล้วให้กลับไปหน้า browser อีกครั้ง และทดลองเรียกเว็บไซต์ http://localhost:8080/jspui
หากพบปัญหาใหม่ แจ้งข้อความผิดพลาด ' HTTP Status 500...' ให้ไปยังขั้นตอนในลำดับถัดไป
ให้ย้ายโฟลเดอร์ชื่อ 'jspui' ออกจากไดเรกทอรีชื่อ ROOT และนำมาไว้ที่โฟลเดอร์
c:\apache-tomcat-7.0.69\webapps และเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ ROOT เป็นชื่ออื่น
(จากตัวอย่างเปลี่ยนโฟลเดอร์ชื่อ ROOT เป็น ROOT-old)
ถัดมาให้ทำการเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ 'jspui' เป็นโฟลเดอร์ชื่อ 'ROOT'
ทดลองเรียก url -> http://localhot:8080/jspui ที่หน้าเว็บ browser อีกครั้ง
แต่พบปัญหาใหม่คือ ไม่มีข้อมูลใด ๆ แสดงบน หน้าเว็บ ให้ข้ามไปยังขั้นตอนถัดไป
กลับไปยังหน้าต่าง windows command prompt และสั่งปิดการทำงานของ web server โดยพิมพ์คำสั่ง
%CATALINA_HOME%\bin\shutdown.bat
และสั่งให้ service ของ web server ทำงานอีกครั้งโดยพิมพ์คำสั่ง
%CATALINA_HOME%\bin\startup.bat
ทดลองเรียกหน้าเว็บ อีกครั้ง --> http://localhost:8080
แต่พบปัญหาใหม่อีก แจ้งข้อความผิดพลาด 'Internal System Error...' ให้ข้ามไปยังขั้นตอนถัดไป
ให้กลับไปยังไดเรกทอรีชื่อ c:\dspace\webapps และ copy โฟลเดอร์ภายในทั้งหมด ยกเว้นโฟลเดอร์ชื่อ 'jspui' (เนื่องจาก copy ไปก่อนหน้านี้แล้ว)
และนำโฟลเดอร์ที่ copy ไว้ มาวาง (paste) ในโฟลเดอร์ชื่อ c:\apache-tomcat-7.0.69\webapps
ขั้นตอนถัดมา ให้ทดลองสั่ง start service การทำงานของ Web Server อีกครั้ง ด้วยคำสั่ง
%CATALINA_HOME%\bin\startup.bat
หากพบปัญาแจ้งข้อความผิดพลาด--> .. java.lang.OutOfMemoryError .. หรือ
ไม่สามารถให้ web server ทำงานได้
ให้ดำเนินการแก้ไขตามแนวทางในขั้นตอนถัดไป
โดยสร้างไฟล์ชื่อ 'setenv.bat'
และเก็บไว้ในไดเรกทอรีชื่อ 'c:\apache-tomcat-7.0.69\bin'
setenv.bat (คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดไฟล์)
(แหล่งอ้างอิงข้อมูลการสร้างไฟล์ 'setenv.bat', :
set JAVA_OPTS=-Dfile.encoding=UTF-8 -Xms128m -Xmx1024m -XX:PermSize=64m -XX:MaxPermSize=256m
เมื่อสร้างไฟล์ setenv.bat เสร็จแล้ว ให้กลับไปที่หน้าต่าง windows command prompt
และสั่ง restart catalina โดยไปที่ไดเรกทอรี c:\apache-tomcat-7.0.69\bin
และพิมพ์คำสั่ง catalina.bat restart
ทดลองสั่ง start service ของ Web Server อีกครั้งโดยพิมพ์คำสั่ง
%CATALINA_HOME%\bin\startup.bat
รอกระทั่งปรากฎข้อความ ' Server startup in ... '
กลับไปทดสอบเรียกหน้าเว็บอีกครั้ง
http://localhost:8080
จะพบว่าสามารถเรียกหน้าเว็บ dspace ได้เป็นปกติ ไม่พบข้อผิดพลาด
Keyword: install dspace 6 on windows, install dspace 6 ,ติดตั้ง dspace, install dspace, institutional repository, ir, คลังข้อมูล, คลังสารสนเทศ, คลังสถาบัน, คลังเอกสาร, ติดตั้ง dspace 6, ติดตั้งดีเสปซ, dspace 6 on windows, การใช้งาน dspace เบื้องต้น, คู่มือการใช้ dspace, dspace คู่มือ, โปรแกรม dspace, การติดตั้ง dspace, การติดตั้ง dspace 6, , dspace installation on windows, dspace installation on centos, dspace installation step by step, dspace 6 installation, dspace 6.0 installation
ขอบคุณมากครับ ลองทำตามบทความนี้ และสามารถติดตั้งระบบ Dspace ได้เรียบร้อย ขอบคุณครบ
ReplyDelete